เกิดเหตุไฟไหม้ป่าเขตวัดป่าเขาน้อยและลุกลามไหม้ป่าวนอุทยานภูเขาไฟกระโดงบุรีรัมย์กว่า
100 ไร่
ระดมรถดับเพลิงฉีดน้ำสกัดแต่ไม่เป็นผล
เนื่องจากไฟลามเป็นวงกว้างรถดับเพลิงไม่สามารถเข้าถึง ต้องประสาน
จนท.จากหลายภาคส่วนกว่า 100 ชีวิตพร้อมอุปกรณ์เดินเท้าเข้าควบคุมเพลิง
ใช้เวลานานกว่า 3 ชม.จึงสกัดเพลิงให้อยู่ในวงจำกัดได้
(14 มี.ค.59) เกิดเหตุไฟไหม้ป่าบริเวณวัดป่าเขาน้อย
ต.เสม็ด อ.เมือง จ.บุรีรัมย์
ก่อนจะลุกลามไหม้ป่าในเขตวนอุทยานภูเขาไฟกระโดง
แหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดซึ่งเป็นพื้นที่ติดต่อกัน หลังได้รับแจ้งทางมณฑลทหารบกที่ 26 พร้อมเจ้าหน้าดับเพลิงจากเทศบาล และ อบต.ใกล้เคียง
ได้ระดมรถบรรทุกน้ำเข้าฉีดสกัดเพลิงบริเวณที่ไฟลุกไหม้ แต่เนื่องจากไฟได้ลุกลามเป็นวงกว้างสภาพป่าค่อนข้างแห้งแล้ง
ใบร่วงหล่นทำให้ใบไม้และกิ่งไม้แห้งที่ทับทมเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี
ประกอบกับบริเวณที่ไฟลุกไหม้รถดับเพลิงไม่สามารถเข้าถึงได้ จึงได้ระดมกำลังพลจากมณฑลทหารบกที่
26 ร่วมกับเจ้าหน้าที่หลายภาคส่วนทั้ง
ทสจ. , ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด
, อส. , วนอุทยานภูเขาไฟกระโดง กว่า 100 ชีวิต
พร้อมวัสดุอุปกรณ์ในการดับเพลิง
เดินเท้าเข้าไปดับเพลิงในบริเวณป่าลึกที่รถเข้าไม่ถึง ซึ่งต้องใช้เวลานานกว่า 3 ชั่วโมงจึงสามารถควบคุมเพลิงให้อยู่ในวงจำกัดได้ พร้อมทั้งจัดชุดเจ้าหน้าที่คอยลาดตระเวนโดยรอบ เพื่อเฝ้าระวังไม่ให้เพลิงลุกลามไหม้
แต่หลังจากเพลิงสงบก็พบว่าพื้นที่ป่าได้ถูกไฟไหม้มากกว่า 100 ไร่
โดยการเข้าระงับเหตุเพลิงไหม้ป่าวนอุทยานภูเขาไฟกระโดงในครั้งนี้
ได้มีนายวิทยา จันทร์ฉลอง
รองผู้ว่าราชการจ.บุรีรัมย์
พร้อมด้วย พ.อ.ยุทธนา เอี่ยมวิจิตร์ รองผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 26 ก็ได้ลงพื้นที่ติดตามการปฏิบัติและสั่งการควบคุมเพลิงไหม้ป่าด้วยตนเอง เพราะหากไฟลุกลามไหม้เป็นวงกว้างก็จะสร้างความเสียหายอย่างมหาศาล ทั้งกระทบระดมนิเวศน์ มลภาวะทางอากาศ ทรัพยากรธรรมชาติ สัตว์ป่า และแหล่งท่องเที่ยวด้วย ส่วนสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้ น่าจะเกิดจากเกษตรกรจุดไฟเผาหญ้าหรือทุ่งนาแล้วดับไม่สนิท จนทำให้เกิดไฟลุกลามไหม้ป่าดังกล่าว
สุรชัย พิรักษา / สวท..บุรีรัมย์